ผิวเด็กจนลืมอายุ ผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี แต่ไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี วิตามินบูสต์ผิวสูตรลับดารา มอบผิวใหม่ใสฉ่ำเด้ง

รีจูรัน (Rejuran) 

คือ การฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวด้วย Polynucleotide ที่กระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างตัวใหม่ฟื้นฟูบาดแผล (Wound healing) แก้ปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพ (Aging Skin)  ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ หน้าเนียนใส รูขุมขนเล็กลง ผิวแลดูสุขภาพดีจากภายใน ซึ่งการทำรีจูรันสามารถทำควบคู่กับการทำหัตถการแบบอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น เลเซอร์ หรือ Skin booster ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลองปรึกษาแพทย์เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด 

Rejuran หรือ รีจูรัน เป็นหนึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วย ฟื้นฟูผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ สามารถช่วยปรับสภาพผิวให้สดใส พร้อมทั้งกระชับรูขุมขน ผ่านการรับรองจากอย.ไทย และมีงานวิจัยรับรอง ปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ถือเป็นเทรนด์ยอดนิยมในปีนี้ หากต้องการมีผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี

REJURAN ดีหรือไม่?

REJURAN คือ POLYNUCLEORIDE (PN) เป็น DNA ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด โดยถูกสกัดจาก WILD SALMON มาทำให้บริสุทธิ์ เพิ่มจำนวนเซลล์ไฟโบบลาสต์ที่มีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ คอลลาเจนมีความหนาตัวขึ้น ผิวดูดีขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างรวดเร็ว มีผิวแบบอิ่มฟู ฉ่ำวาว ดูอ่อนเยาว์ ได้ ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี

Rejuran มีกลไกทำงานอย่างไร

เมื่อฉีดรีจูรันเข้าสู่พื้นหนังแล้ว Polynucleotide จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการหลั่งโกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) ไม่ว่าจะเป็น IGF, EGF และ FGF ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ช่วยควบคุมการหลั่งสารไซโตไคม์เพื่อลดการอักเสบของผิว ช่วยสร้างหลอดเลือดและทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การขับของเสียออกจากผิวดีมากขึ้นตามไปด้วย

REJURAN ช่วยอะไรบ้าง?

⦁ กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวเนียนละเอียดขึ้น
⦁ ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ตื้นๆ
⦁ รักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้น
⦁ ปรับสมดุลให้แก่ผิว ลดปัญหา⦁ สิวที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ⦁ สิวอักเสบ
⦁ ลดความมันบนใบหน้า 
⦁ ยกกระชับผิว
⦁ ลดความคล้ำใต้ตา
⦁ ฟื้นฟูคุณภาพผิว แก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน

ข้อปฏิบัติก่อนทำ Rejuran

⦁ งดรับประทานวิตามินและอาหารเสริมที่กระตุ้นให้เลือดออกได้ง่าย ประมาณ 1 สัปดาห์การเข้ารับการรักษา 
⦁ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดการแพ้ 
⦁ หากมีโรคประจำตัวและประวัติแพ้ยาจำเป็นต้องแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง 
⦁ ก่อนทำรีจูรันจะมีการทำความสะอาดผิวก่อน แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าก่อนมารับการทำ

ขั้นตอนการทำ Rejuran

⦁ แพทย์จะแปะยาชาให้ก่อนฉีด โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ 
⦁ หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์แล้วแพทย์จะเริ่มทำหัตถการโดย ฉีดรีจูรันเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ โดยใช้ปริมาณทั้ง 2 cc/ครั้ง ทั่วทั้งบริเวณใบหน้า 
⦁ ระยะเวลาที่ใช้ในการทำหัตถการประมาณ 15-30 นาที 
⦁ หลังจากที่ฉีดแล้วอาจจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน
⦁ วิธีการรักษาด้วยการฉีด ฉีดเข้าชั้นผิวหนังแท้ ตื้นๆ ด้วยเข็มขนาดเล็กทั่วใบหน้า โดยอาจเน้นบริเวณที่เป็นหลุมสิวได้ ตัวยาจะไม่ผสมกับสารใดๆ เพื่อความบริสุทธิ์ ปลอดเชื้อ 100%
⦁ แนะนำทำซ้ำต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

หลังฉีด Rejuran ดูแลตัวเองอย่างไร ?

⦁ งดหรือหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหลังทำประมาณ 24 ชม.
⦁ สามารถเช็ดทำความสะอาดผิว และล้างหน้าได้ตามปกติ
⦁ สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากพบอาการบวมแดง จากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด
⦁ ทาครีมบำรุง ดื่มน้ำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
⦁ แนะนำหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หลังฉีด 24 ชม.
⦁ หากมีปัญหาอื่นๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์อีกครั้ง
⦁ หลังทำการรักษา จะมีตุ่มนูนบริเวณที่ฉีด ประมาณ 24-48 ชั่วโมง อาจเร็วหรือนานกว่านั้นแล้วแต่บุคคล

ฉีดรีจูรันที่ไหนดี ?

⦁ ที่Dr.Kate clinic ทำหัตถการโดยแพทย์เท่านั้น
⦁ สามารถตรวจสอบตัวยาของ รีจูรัน ที่เป็นของแท้ 100% สามารถตรวจสอบได้
⦁ ก่อนฉีดคทางคลินิกแกะกล่องให้ดูต่อหน้า สามารถสแกน Qr Code ของทางบริษัทได้  มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน

รีจูรัน ควรฉีดกี่ CC ?

⦁ รีจูรัน 1 กล่อง จะมีทั้งหมด 4 CC โดยแบ่งเป็น 2 หลอด หลอดละ 2 CC
⦁ โดยทั่วไปการฉีดรีจูรันอยู่ที่ 2 CC เป็นหลัก
⦁ สามารถฉีดครั้งละ 4 CC สำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวแบบสูงสุด
⦁ แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อนทำอีกครั้ง

ความถี่ของการฉีด รีจูรัน ?

⦁ ตามหลักการของหารฉีดรีจูรัน แนะนำให้ฉีด เดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2-4 CC
⦁ ฉีด 3 เดือน ต่อเนื่องกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่มีการวิจัยมาแล้ว
⦁ โดยผลจะเริ่มชัดเจนขึ้นในครั้งที่ 2 และมากขึ้นอีกหลังการฉีดครังที่ 3 ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล
⦁ หลังจาก 3 เดือนแรก แล้วจึงค่อยเว้นระยะการฉีดให้นานขึ้นได้
⦁ ปรึกษาแพทย์ที่ทำอีกครั้งสำหรับการฉีดครั้งต่อไป