เปิด 11.00-20.00 ทุกวัน
097 224 9888

โบท็อกซ์ ลดเลือนริ้วรอย

พร้อมปรับรูปหน้าเรียวเล็กลง คอระหงส์และรักษาอาการ office syndrome ได้ด้วยโบท็อกซ์ จริงหรือ

Botulinum Toxin หรือโบท็อกซ์คืออะไร

Botulinum Toxin หรือโบท็อกซ์นี้ นับเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าและกระชับลำคอ ฟื้นฟูผิว รวมไปถึงยังสามารถนำมาใช้ทำให้กล้ามในส่วนต่าง ๆ คลายตัว เช่น กล้ามเนื้อในส่วนกราม กล้ามเนื้อส่วนน่องได้ด้วย ซึ่งสารที่เรียกสั้น ๆ ว่าโบท็อกซ์นี้จริง ๆ แล้วก็คือสารชนิดหนึ่งที่ได้จากกระบวนการสกัดแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ซึ่งแบคทีเรียชนิดนี้เมื่อนำมาใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกต้องก็จะมีประโยชน์อย่างมากต่อการรักษา Botulinum Toxin นั้นสามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด แต่ที่นำมาใช้ในด้านความงามเพื่อการลดริ้วรอย และจัดได้ว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดนั้น จะเป็น Botulinum Toxin Type A นั่นเอง

Botulinum Toxin มักฉีดตําแหน่งไหนและช่วยอะไรได้บ้าง

สําหรับการฉีดโบท็อกซ์นั้นในปัจจุบันสามารถฉีดได้หลายจุดมาก เนื่องจากวิทยาการเทคนิคทางการแพทย์นั้นก้าวหน้าและพัฒนาไปจากแต่ก่อนมาก ทําให้สามารถประยุกต์การฉีดเพื่อแก้ปัญหาบนใบหน้าและร่างกายได้หลากหลายมากขึ้น แต่ตําแหน่งหลัก ๆ ที่จะทําการฉีดและเป็นจุดที่ได้รับความนิยมนั้นก็จะมีดังนี้

ใครบ้างที่เหมาะกับ Botulinum Toxin

ในภาพรวม Botulinum Toxin นั้นเหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้าหรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้สัดส่วน แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น รวมไปถึงผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อร่างกายบางส่วน หากกล่าวให้เจาะจงขึ้น โบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า และริ้วรอยจะชัดขึ้นเวลาที่แสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว หรือรอยตีนกาที่ปรากฏเวลาที่ยิ้ม เป็นต้น
  • ผู้ที่ต้องการกระชับผิวหน้าและคอให้เรียบตึง
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กและดูได้สัดส่วนที่สมดุล
  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อบางส่วนมีขนาดใหญ่จนกระทบกับการใช้ชีวิตและต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อ อย่าง บ่า แขน และน่อง เป็นต้น
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้วงแขนมีเหงื่อเยอะและเริ่มมีกลิ่นตัวจากเหงื่อที่เยอะจนทําให้ขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิต

มีงานวิจัยในต่างประเทศที่เคยศึกษาเปรียบเทียบการทำโบท็อกซ์ของฝาแฝด โดยให้คนหนึ่งฉีดโบท็อกซ์อย่างสม่ำเสมอทุก 3-6 เดือนที่บริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว และหางตา ทำต่อเนื่องแบบนี้มาเป็นระยะเวลา 13 ปี ขณะที่แฝดอีกคนตลอดระยะเวลา 13 ปี ทำโบท็อกซ์ไปเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ แฝดคนที่ฉีดอย่างต่อเนื่องนั้นมีผิวหน้าที่ยังคงเต่งตึง เรียบเนียน แม้กาลเวลาจะผ่านมา 13 ปี แต่เวลาที่แฝดคนนี้แสดงสีหน้าในอารมณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะยิ้มหรือขมวดคิ้ว ก็ไม่มีริ้วรอย ซึ่งต่างจากคนที่ฉีดเพียง 2 ครั้งใน 13 ปี จะมีริ้วรอยที่ชัดเจนมากกว่า นั่นจึงทำให้สามารถสรุปได้ว่า การฉีด Botulinum Toxin อย่างต่อเนื่องไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว และยังจะช่วยให้การลดริ้วรอยได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากกว่าการฉีดแบบไม่ต่อเนื่องอีกด้วย

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีด Botulinum Toxin

  1. ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  2. ควรหยุดยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแก้อักเสบ แอสไพริน น้ำมันตับปลา วิตามินอี เป็นต้น เป็นเวลา 7-14 วัน
  3. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญสูง
  4. เลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ที่เป็นของแท้เท่านั้น
  5. ควรให้แพทย์ผสมสาร Botulinum Toxin ให้ดูทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าสารที่จะฉีดไม่ได้ถูกน้ำเกลือเจือจางมากเกิน

หลังฉีด Botulinum Toxin แล้วควรปฏิบัติตัวอย่างไร

  1. หลังฉีดโบท็อกซ์แนะนำว่าควรมีการขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันทีประมาณ 1-2 ครั้ง เพื่อสารที่ฉีดเข้าไปเกิดการกระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อ
  2. หลังฉีดให้เลี่ยงการนอนราบประมาณ 3 ชม.
  3. ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสความร้อนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง อย่างการซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นต้น 
  4. หลังทำควรงดการทำหน้า นวดหน้าประมาณ 2 สัปดาห์
    สรุปได้ว่า การลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าด้วย Botulinum Toxin เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถทำได้ต่อเนื่องและมีความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ดีเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อให้ตัวคุณได้รับสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุดนั่นเอง

Long-term effects of botulinum toxin type A (Botox) on facial lines: a comparison in identical twins.OBJECTIVE:

To evaluate the presence of imprinted facial lines in identical twin sisters, one of whom had received botulinum toxin type A (Botox) treatment in the forehead and glabellar region regularly for 13 years and one of who had not. Crow’s feet were also compared.

METHODS:

One twin received Botox in the forehead and glabellar region (approximately 2 to 3 times each year over the past 13 years) and in the crow’s feet (twice in past 2 years). Her twin received Botox only twice (in the forehead and glabellar region, 3 and 7 years ago).

RESULTS:

Imprinted forehead and glabellar lines were not evident in the regularly treated twin but were evident in the minimally treated twin. Crow’s feet were less noticeable when the regularly treated twin smiled (even at 7 months after treatment) than when the minimally treated twin smiled. Untreated facial areas (eg, nasolabial folds) showed comparable aging in both twins. Neither twin experienced adverse effects.

CONCLUSIONS:

Long-term treatment with Botox can prevent the development of imprinted facial lines that are visible at rest. Botox treatment can also reduce crow’s feet. Treatment is well tolerated, with no adverse events reported during 13 years of regular treatment in this study.

ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

DR.KATE คลินิกพร้อมดูแลและให้คำปรึกษาทุกเคส ให้เราเป็นส่วนหนึ่ง
ของความมั่นใจของคุณ
ติดต่อเรา

บริการอื่น ๆ

  • บทความ

    เวสเนส

    Screening & Check Up ด็อกเตอร์เคท ศูนย์ความงามและการชะลอวัย ให้บริการทางการแพทย์ทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับบริการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาว
  • เลเซอร์ขน

    ขนจ๋า… พี่ลาก่อน กำจัดขนทั่วเรืองร่าง เปิดไฟให้วงแขน รักแร้ขาวเนียนใส ใส่ชุดไหนก็กล้าโชว์